ข่าวสาร
FOOD FOR GOOD โครงการแบ่งปันเพื่อโภชนาการของเด็กไทย
ปัจจุบันเด็กไทยเป็นโรคขาดสารอาหารค่อนข้างมาก แน่นอนว่าส่งผลกระทบถึงการเจริญเติบโตของร่างกายที่ทำให้ผอมเกินไป หรือเตี้ยเกินไป
วันนี้เรามีโครงการดีๆ ที่เห็นถึงความสำคัญในโภชนาการของเด็กไทยคือโครงการ “FOOD FOR GOOD พี่อิ่มท้องน้องอิ่มด้วย”
โครงการนี้จัดตั้งขึ้นเมื่อ 2557 ด้วยความตั้งใจและความร่วมมือของเครือข่ายร้านอาหารทั่วประเทศที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการของเด็กไทยที่อยู่ในภาวะขาดสารอาหาร
ทิพย์ชยา พงศธร ผู้ก่อตั้ง FOOD FOR GOOD บอกถึงที่มาของโครงการว่า จากสถิติมีเด็กไทยที่ขาดสารอาหารราว 3.5 ล้านคน ส่วนที่ขาดสารอาหารรุนแรงมีมากถึง 800,000 คน จึงได้คิดโครงการช่วยเหลือสังคมขึ้นมา ซึ่งที่จริงทำอยู่ทุกปีแต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้ต่อเนื่องมากขึ้น
จึงตัดสินใจใช้ธุรกิจร้านอาหารเป็นกลไกในการช่วยแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการของเด็กไทยให้มีโภชนาการที่ดีขึ้น
โดยร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการจะแบ่งปันรายได้ส่วนหนึ่งจากเมนูอาหารไปสนับสนุนค่าอาหารให้กับเด็กๆ ภายใต้การดูแลของ 3 มูลนิธิได้แก่ สหทัยมูลนิธิ มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ และมูลนิธิบ้านนกขมิ้น
ทิพย์ชยาเล่าพร้อมรอยยิ้มว่า ผลตอบรับตอนนี้ดีมากๆ จากตอนแรกมีร้านอาหารเข้าร่วมเพียง 7 ร้านแต่ตอนนี้มีราว 50 ร้าน 450 สาขาทั่วประเทศไทย สามารถช่วยเด็กได้ 60,000 กว่ามื้อ จึงตัดสินใจขยายผู้รับบริจาคเพิ่ม โดยวางแผนไว้ช่วยเด็กๆ ที่อยู่บริเวณชายแดนแม่ฮ่องสอน 2-3 โรงเรียน ตั้งแต่เด็กอนุบาลถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
“โรงเรียนตรงนั้นค่อนข้างจะขาดแคลนมาก แล้วยังมีเด็กที่กินนอนอยู่กับโรงเรียนค่อนข้างเยอะทางโรงเรียนจึงไม่มีงบประมาณในเรื่องค่าอาหาร ซึ่งเริ่มโครงการที่แม่ฮ่องสอนในเดือนกรกฎาคมนี้”
ทิพย์ชยาเสริมว่า การดูแลเด็กจะดูที่น้ำหนักกับส่วนสูงเป็นหลักในเด็กเล็ก ซึ่งทางโครงการมีหน้าที่ไปเสริมในด้านโภชนาการให้เข้มเเข็งมากขึ้น โดยมีนักโภชนาการคอยดูแลอย่างใกล้ชิดและติดตามผลของเด็กอยู่ทุกเดือน โดยให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งน้ำหนักส่วนสูงของเด็กและอาหารที่ได้รับประทานเพื่อวิเคราะห์
และผลคือ 2 ปีที่ผ่านมาจากเด็กที่ต่ำกว่าเกณฑ์มีการพัฒนาที่ดีมากขึ้น
ส่วนการติดต่อร้านต่างๆ นั้น ทิพย์ชยาบอกว่า เดิมทีจะติดต่อกับคนที่รู้จักก่อนและใช้สื่อออนไลน์ของร้านนั้นๆ ในการเผยแพร่โครงการออกไปให้เป็นที่รู้จัก ส่วนร้านอาหารอื่นๆ ก็ติดต่อเข้าไปเลยเพราะคิดว่าเป็นการบอกบุญต่อ
“ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการกับเราตอนนี้มีทั้งโรงแรม ร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำ และร้านอาหารทั่วๆ ไป ซึ่งการบริจาคขึ้นอยู่กับราคาอาหาร บางเมนูมีราคาไม่สูงอาจเริ่มต้นที่จานละ 1 บาท” ทิพย์ชยากล่าว
ทิพย์ชยายังเชิญชวนร้านอาหารทุกๆ ร้านว่า อยากให้ทุกร้านอาหารเข้าร่วมโครงการเพราะเพียงเล็กน้อยที่บริจาค จะเป็นการสนับสนุนโภชนาการของเด็กไทยให้ไปตลอดรอดฝั่ง โอบอุ้มเด็กกลุ่มนี้ให้ไปเป็นผู้ใหญ่ของสังคมต่อไป
ด้าน ฉัตรฤดี ศุขตระกูล ผู้อำนวยการอาวุโส เดอะ เทอเรส หนึ่งในร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ FOOD FOR GOOD กล่าวว่า เราเล็งเห็นว่าโครงการนี้มีประโยชน์ต่อสังคมเป็นอย่างมาก ร้านอาหารของเรากว่า 16 สาขา ทั่วกรุงเทพฯ รวมไปถึงเชียงใหม่และหาดใหญ่ จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้
“ส่วนเมนูที่ทางร้านเลือกเป็นในโครงการเป็นเมนูเพื่อสุขภาพทั้งหมด 6 เมนู ได้แก่ สเต๊กปลากะพงอบซอสไวน์ขาว พอร์คชอพซอสจิ้มแจ่ว สเต๊กหมูเดอะเทอเรส ไก่อบอเมริกันครึ่งตัวราดซอสเห็ดแชมปิญอง สเต๊กปลากะพงทอด และสเต๊กสันคอหมูย่างซอสกะเพรากรอบ”
ฉัตรฤดีกล่าวว่า โดยทางร้านจะประชาสัมพันธ์ให้กับลูกค้าทราบและในรายการอาหารจะมีสติ๊กเกอร์ว่าเมนูไหนเข้าร่วมโครงการ Food 4 Good โดยทุกเมนูที่เข้าร่วมกิจกรรม 1 จาน จะบริจาค 10 บาท
ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 เดือน ทางร้านระดมทุนเข้าโครงการได้ 50,000 บาท สามารถสนับสนุนให้น้องๆ ในการดูแลของโครงการได้ถึง 2,500 มื้อ
“เราภูมิใจและเป็นเกียรติมากที่FOOD FOR GOOD ติดต่อเข้ามา อย่างน้อยเราได้ช่วยเหลือแบ่งปันสังคม เพราะเรามองว่าเด็กไทยคืออนาคตของชาติ นับแต่นี้เราต้องร่วมจับมือกันสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศชาติต่อไป”
“หากทาง FOOD FOR GOOD มีกิจกรรมหรือโครงการดีๆ แบบนี้ทางเดอะ เทอเรส ก็พร้อมสนับสนุนและเข้าร่วมกิจกรรมอีกแน่นอน” ฉัตรฤดีกล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ เด็กก็เหมือนกับต้นกล้าหากมีโภชนาการที่สมบูรณ์
ในอนาคตเราก็จะมีต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ
วันนี้เรามีโครงการดีๆ ที่เห็นถึงความสำคัญในโภชนาการของเด็กไทยคือโครงการ “FOOD FOR GOOD พี่อิ่มท้องน้องอิ่มด้วย”
โครงการนี้จัดตั้งขึ้นเมื่อ 2557 ด้วยความตั้งใจและความร่วมมือของเครือข่ายร้านอาหารทั่วประเทศที่จะช่วยแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการของเด็กไทยที่อยู่ในภาวะขาดสารอาหาร
ทิพย์ชยา พงศธร ผู้ก่อตั้ง FOOD FOR GOOD บอกถึงที่มาของโครงการว่า จากสถิติมีเด็กไทยที่ขาดสารอาหารราว 3.5 ล้านคน ส่วนที่ขาดสารอาหารรุนแรงมีมากถึง 800,000 คน จึงได้คิดโครงการช่วยเหลือสังคมขึ้นมา ซึ่งที่จริงทำอยู่ทุกปีแต่คิดว่าจะทำอย่างไรให้ต่อเนื่องมากขึ้น
จึงตัดสินใจใช้ธุรกิจร้านอาหารเป็นกลไกในการช่วยแก้ไขปัญหาทุพโภชนาการของเด็กไทยให้มีโภชนาการที่ดีขึ้น
โดยร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการจะแบ่งปันรายได้ส่วนหนึ่งจากเมนูอาหารไปสนับสนุนค่าอาหารให้กับเด็กๆ ภายใต้การดูแลของ 3 มูลนิธิได้แก่ สหทัยมูลนิธิ มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ และมูลนิธิบ้านนกขมิ้น
ทิพย์ชยาเล่าพร้อมรอยยิ้มว่า ผลตอบรับตอนนี้ดีมากๆ จากตอนแรกมีร้านอาหารเข้าร่วมเพียง 7 ร้านแต่ตอนนี้มีราว 50 ร้าน 450 สาขาทั่วประเทศไทย สามารถช่วยเด็กได้ 60,000 กว่ามื้อ จึงตัดสินใจขยายผู้รับบริจาคเพิ่ม โดยวางแผนไว้ช่วยเด็กๆ ที่อยู่บริเวณชายแดนแม่ฮ่องสอน 2-3 โรงเรียน ตั้งแต่เด็กอนุบาลถึงชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3
“โรงเรียนตรงนั้นค่อนข้างจะขาดแคลนมาก แล้วยังมีเด็กที่กินนอนอยู่กับโรงเรียนค่อนข้างเยอะทางโรงเรียนจึงไม่มีงบประมาณในเรื่องค่าอาหาร ซึ่งเริ่มโครงการที่แม่ฮ่องสอนในเดือนกรกฎาคมนี้”
ทิพย์ชยาเสริมว่า การดูแลเด็กจะดูที่น้ำหนักกับส่วนสูงเป็นหลักในเด็กเล็ก ซึ่งทางโครงการมีหน้าที่ไปเสริมในด้านโภชนาการให้เข้มเเข็งมากขึ้น โดยมีนักโภชนาการคอยดูแลอย่างใกล้ชิดและติดตามผลของเด็กอยู่ทุกเดือน โดยให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิส่งน้ำหนักส่วนสูงของเด็กและอาหารที่ได้รับประทานเพื่อวิเคราะห์
และผลคือ 2 ปีที่ผ่านมาจากเด็กที่ต่ำกว่าเกณฑ์มีการพัฒนาที่ดีมากขึ้น
ส่วนการติดต่อร้านต่างๆ นั้น ทิพย์ชยาบอกว่า เดิมทีจะติดต่อกับคนที่รู้จักก่อนและใช้สื่อออนไลน์ของร้านนั้นๆ ในการเผยแพร่โครงการออกไปให้เป็นที่รู้จัก ส่วนร้านอาหารอื่นๆ ก็ติดต่อเข้าไปเลยเพราะคิดว่าเป็นการบอกบุญต่อ
“ร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการกับเราตอนนี้มีทั้งโรงแรม ร้านอาหารแบรนด์ชั้นนำ และร้านอาหารทั่วๆ ไป ซึ่งการบริจาคขึ้นอยู่กับราคาอาหาร บางเมนูมีราคาไม่สูงอาจเริ่มต้นที่จานละ 1 บาท” ทิพย์ชยากล่าว
ทิพย์ชยายังเชิญชวนร้านอาหารทุกๆ ร้านว่า อยากให้ทุกร้านอาหารเข้าร่วมโครงการเพราะเพียงเล็กน้อยที่บริจาค จะเป็นการสนับสนุนโภชนาการของเด็กไทยให้ไปตลอดรอดฝั่ง โอบอุ้มเด็กกลุ่มนี้ให้ไปเป็นผู้ใหญ่ของสังคมต่อไป
ด้าน ฉัตรฤดี ศุขตระกูล ผู้อำนวยการอาวุโส เดอะ เทอเรส หนึ่งในร้านอาหารที่เข้าร่วมโครงการ FOOD FOR GOOD กล่าวว่า เราเล็งเห็นว่าโครงการนี้มีประโยชน์ต่อสังคมเป็นอย่างมาก ร้านอาหารของเรากว่า 16 สาขา ทั่วกรุงเทพฯ รวมไปถึงเชียงใหม่และหาดใหญ่ จึงได้ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้
“ส่วนเมนูที่ทางร้านเลือกเป็นในโครงการเป็นเมนูเพื่อสุขภาพทั้งหมด 6 เมนู ได้แก่ สเต๊กปลากะพงอบซอสไวน์ขาว พอร์คชอพซอสจิ้มแจ่ว สเต๊กหมูเดอะเทอเรส ไก่อบอเมริกันครึ่งตัวราดซอสเห็ดแชมปิญอง สเต๊กปลากะพงทอด และสเต๊กสันคอหมูย่างซอสกะเพรากรอบ”
ฉัตรฤดีกล่าวว่า โดยทางร้านจะประชาสัมพันธ์ให้กับลูกค้าทราบและในรายการอาหารจะมีสติ๊กเกอร์ว่าเมนูไหนเข้าร่วมโครงการ Food 4 Good โดยทุกเมนูที่เข้าร่วมกิจกรรม 1 จาน จะบริจาค 10 บาท
ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 เดือน ทางร้านระดมทุนเข้าโครงการได้ 50,000 บาท สามารถสนับสนุนให้น้องๆ ในการดูแลของโครงการได้ถึง 2,500 มื้อ
“เราภูมิใจและเป็นเกียรติมากที่FOOD FOR GOOD ติดต่อเข้ามา อย่างน้อยเราได้ช่วยเหลือแบ่งปันสังคม เพราะเรามองว่าเด็กไทยคืออนาคตของชาติ นับแต่นี้เราต้องร่วมจับมือกันสร้างความแข็งแกร่งให้กับประเทศชาติต่อไป”
“หากทาง FOOD FOR GOOD มีกิจกรรมหรือโครงการดีๆ แบบนี้ทางเดอะ เทอเรส ก็พร้อมสนับสนุนและเข้าร่วมกิจกรรมอีกแน่นอน” ฉัตรฤดีกล่าวทิ้งท้าย
ทั้งนี้ เด็กก็เหมือนกับต้นกล้าหากมีโภชนาการที่สมบูรณ์
ในอนาคตเราก็จะมีต้นไม้ใหญ่ที่แข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ