“เด็กวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า” และเด็กเหล่านี้กำลังเติบโตเพื่อเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต การบริโภคอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะส่งผลโดยตรงต่อการเสริมสร้างพัฒนาการที่ดีแก่เด็ก แต่ปัจจุบันประเทศไทยกำลังมีเด็กต้นทุนต่ำกว่า 8 แสนคน ที่รอความช่วยเหลือ เนื่องจากเด็กเหล่านี้อยู่ในภาวะทุพโภชนาการ ไม่มีโอกาสได้รับอาหารที่ถูกหลักโภชนาการอย่างเพียงพอ และขาดความเข้าใจเรื่องโภชนาการที่ถูกต้อง ซึ่งส่งผลต่อพัฒนาการที่ต่ำกว่าเกณฑ์ทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา ในโอกาสพิเศษวันอาหารโลก 2016 (World Food Day) อิเกียจึงร่วมกับโครงการ “FOOD FOR GOOD พี่อิ่มท้อง น้องอิ่มด้วย” เป็นปีที่ 2 ส่งสินค้ากล่องเก็บอาหารรุ่นแยมก้า (JÄMKA) ระดมทุนสนับสนุนเรื่องอาหารและโภชนาการให้แก่เด็กๆที่ขาดแคลนในประเทศ
พาทริซ ดรีอาโน่ ผู้จัดการสโตร์อิเกียบางนากล่าวว่า “สถานการณ์ปัจจุบันภาวะการขาดแคลนอาหารของเด็กเป็นปัญหาระดับโลก ไม่ใช่เพียงประเทศไทยเท่านั้นที่ประสบปัญหานี้แต่ในหลายๆ ประเทศ ในยุโรปก็เช่นกัน ด้วยปรัชญาและแนวคิดหลักของอิเกียที่มุ่งมั่นสรรสร้างและพัฒนาคุณภาพชีวิตให้แก่คนและสังคมอย่างยั่งยืน และเด็กคือกลุ่มเป้าหมายหลักที่อิเกียให้ความสนใจ อิเกียไม่ได้มุ่งเน้นแต่การผลิตเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านที่มีคุณภาพ แต่เราให้ความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ชุมชน และเพื่อนบ้านบริเวณโดยรอบ รวมถึงอาหารที่จำหน่ายก็ต้องเป็นอาหารที่ดี มีคุณภาพและมีประโยชน์ต่อผู้บริโภค ดังนั้น เราจึงมองหาแนวทางที่จะทำอย่างไรให้เกิดการพัฒนาร่วมกันเพื่อช่วยเหลือสังคมได้อย่างยั่งยืน ซึ่งแนวคิดหลักของอิเกียสอดคล้องและมีเป้าหมายเดียวกันกับโครงการ FOOD FOR GOOD ที่มุ่งเน้นเรื่องคุณภาพอาหารและการบริโภคสำหรับเด็กๆ อิเกียจึงร่วมกับโครงการฯ จัดกิจกรรมพิเศษในวันอาหารโลก 2016 (World Food Day) เพื่อระดมทุนสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพอาหารให้แก่เด็กๆ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่พนักงานและลูกค้าอิเกียทุกท่านได้มีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม ผ่านการสั่งเมนูสุขภาพและซื้อสินค้าราคาพิเศษที่เราเลือกมาร่วมโครงการฯ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งกับโครงการฯ”
จากข้อมูลขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) เผยว่า ทั่วโลกมีเด็กปฐมวัยกว่า 200 ล้านคนที่ไม่สามารถเข้าถึงการพัฒนาสติปัญญาเนื่องมาจาก 4 ปัจจัยหลัก คือ 1.ภาวะทุพโภชนาการ 2.การขาดสารไอโอดีน 3.โลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก 4.ขาดการเลี้ยงดูและให้การศึกษาที่กระตุ้นพัฒนาการอย่างเหมาะสม และจากการสำรวจภาวะการขาดแคลนอาหารของเด็กไทย พบว่าเด็กที่อายุต่ำกว่า 5 ปี มีถึง 4.7 % หรือ 178,600 คน ที่อยู่ในภาวะขาดสารอาหารรุนแรง และ 15.7 % หรือ 596,600 คน ที่อยู่ในภาวะขาดอาหารจนทำให้การเติบโตต่ำกว่าเกณฑ์
“อิเกียมีการทำสำรวจพบว่า ในแต่ละวันที่โรงอาหารพนักงานจะมีพนักงานมารับประทานอาหารประมาณ 5,000 คนต่อวัน ในแต่ละปีมีอาหารเหลือทิ้งเป็นมูลค่าถึง 1 ล้านบาทต่อปี ซึ่งมูลค่าอาหารเหลือทิ้งนี้ที่เสียไปนั้นเราสามารถนำไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่ขาดแคลนอาหารได้อีกมากมาย เราจึงรณรงค์ให้พนักงานใส่ใจในการเลือกรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้นและช่วยกันลดปริมาณอาหารเหลือทิ้ง โดยการปรุงอาหาร หรือสั่งอาหารให้เพียงพอกับความต้องการที่จะบริโภคเท่านั้น หรือเก็บอาหารในกล่องเก็บอาหารที่มีคุณภาพเพื่อใช้บริโภคในมื้อต่อไป นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่จะช่วยดูแลคุณภาพชีวิตเด็กๆ ได้อย่างยั่งยืนอีกทางหนึ่งคือ การปลูกฝังและสอนให้รู้จักการเลือกรับประทานอาหารอย่างไรให้ดี ถูกสุขลักษณะและมีประโยชน์ต่อร่างกาย เราจึงมีแผนในปีหน้าว่าจะมีการจัดเวิร์คช้อปสำหรับเด็กๆ เกี่ยวกับเรื่องอาหาร เช่น การฝึกทำอาหาร การชิมอาหาร เพราะเป็นกิจกรรมที่สามารถสอดแทรกความรู้ผ่านการลงมือทำจริง ทำให้เด็กสามารถเรียนรู้และสนุกสนานไปพร้อมๆ กันได้ คิดว่าเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่น่าสนใจ” คุณ Patrice กล่าว
ศิรินทร์ อาศน์ศิลารัตน์ ผู้จัดการแผนกการพัฒนาอย่างยั่งยืน อิเกียบางนากล่าวถึงการเข้าร่วมโครงการฯ ครั้งนี้ว่า “โครงการ FOOD FOR GOOD เป็นโครงการที่ดีที่ตั้งใจช่วยพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืน ไม่ใช่แค่การรับเงินบริจาคค่าอาหาร แต่เน้นเรื่องของโภชนาการที่ดีมีประโยชน์และสร้างความตระหนัก โดยเราจะมอบรายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายกล่องเก็บอาหารรุ่นแยมก้า/JAMKA ไซส์ 0.5 ลิตร ราคา 25 บาท และไซส์ 1.2 ลิตร ราคา 40 บาท จากร้านอาหารอิเกีย ในช่วงตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม ถึง 16 ตุลาคม 2016 เพื่อสนับสนุนโครงการ FOOD FOR GOOD เพื่อนำไปเป็นทุนสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพอาหารให้แก่เด็กๆ ในมูลนิธิ มูลนิธิบ้านนกขมิ้น สหทัยมูลนิธิ มูลนิธิเพื่อเด็กพิการ และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก ”
ด้านทิพย์ชยา พงศธร ผู้ก่อตั้งโครงการ Food4Good กล่าวว่า “ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งโครงการ FOOD FOR GOOD รู้สึกดีใจมากที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับทางอีเกีย ด้วยปรัชญาองค์กรและแนวคิดหลักของโครงการฯ เรามีเป้าหมายเดียวกันคือ การสร้างสรรค์กิจกรรมทำดีเพื่อสังคมอย่างยั่งยืนเข้ามาอยู่ในกลไกการทำธุรกิจ ซึ่งเรามองว่าสิ่งนี้จะสามารถช่วยเหลือสังคมได้ในระยะยาว จึงเกิดเป็นความร่วมมือและกิจกรรมดีๆ ในครั้งนี้และในอนาคตต่อไป
โครงการ FOOD FOR GOOD พี่อิ่มท้อง น้องอิ่มด้วย ร่วมกับร้านอาหารและโรงแรม แบ่งปันรายได้ส่วนหนึ่งจากการจำหน่ายเมนูอาหารที่ร่วมโครงการฯ นำไปช่วยเหลือเด็กๆ ที่ขาดแคลนในประเทศไทยให้ได้รับอาหารและโภชนาการที่ดีอย่างต่อเนื่อง Food4Good เป็นตัวอย่างการร่วมมือกันของเครือข่ายธุรกิจอาหารเพื่อการทำสิ่งดีๆ ให้สังคมในระยะยาว ผ่านช่องทางที่สร้างความมีส่วนร่วมของผู้เกี่ยวข้องทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ พนักงาน และ ผู้บริโภค และหวังที่จะกระจายความร่วมมือไปสู่ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารทั่วประเทศ สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.foodgood.in.th หรือ www.facebook.com/food4goodth